Monero (XMR) เหรียญที่ให้ความเป็นส่วนตัวขั้นสุด

Monero (XMR) ขึ้นชื่อว่าเป็นเครือข่ายที่ให้ความเป็นส่วนตัวขั้นสุด ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยปกปิดข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดให้เป็นแบบไร้ตัวตน ซึ่งแตกต่างจาก Bitcoin ที่สามารถเช็กข้อมูลทั้งหมดได้บนเครือข่ายสาธารณะ ด้วยความสามารถนี้ทำให้ Monero เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว มาทำความรู้จัก Monero (XMR) ให้ลึกขึ้นได้จากบทความนี้

1. ภาพรวมเหรียญ Monero (XMR) 2025

ในปี 2025 Monero ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญ Privacy ที่ได้รับความสนใจ โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $4.02 พันล้าน ที่ราคา $218.23 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันอยู่ที่ $75.8 ล้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2025) การที่ Monero ไม่มีอุปทานสูงสุด (Max Supply) ทำให้เหรียญถูกขุดออกมาได้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสภาพคล่องให้กับเครือข่าย

2. ผู้ก่อตั้งและทีมพัฒนาเหรียญ Monero (XMR)

Monero พัฒนาขึ้นโดยนักพัฒนา 7 คน ซึ่ง 5 คนในนั้นไม่เปิดเผยตัวตน และมี Riccardo Spagni (Fluffypony) เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ผู้มีบทบาทเป็นทั้งนักพัฒนาและนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัวบนบล็อกเชน

3. ประวัติความเป็นมาของ Monero (XMR)

การพัฒนา Monero สามารถย้อนกลับไปได้ถึงเหรียญ Bytecoin แต่เนื่องจากข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการกระจายเหรียญ ในปี 2014 ผู้ใช้ในชุมชนจึง Fork โค้ด Bytecoin ออกมาภายใต้ชื่อ BitMonero แล้วเปลี่ยนมาเป็น Monero ซึ่งแปลว่า “เงิน” ในภาษาเอสเปรันโต

สรุปเหตุการณ์

  • เมษายน 2014: เปิดตัว BitMonero
  • กันยายน 2014: เปลี่ยนชื่อเป็น Monero
  • มกราคม 2017: เปิดใช้งาน RingCT เริ่มจากบล็อก #1220516 ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยปกปิดจำนวนเงินและรวมลายเซ็นของผู้ส่งเข้ากับลายเซ็นอื่นๆ เพื่อให้ยากต่อการแกะรอยธุรกรรม
  • ตุลาคม 2020: เปิดใช้งาน Bulletproofs เพื่อลดขนาดธุรกรรมและประมวลผลธุรกรรมได้เร็วขึ้น

ปัจจุบัน Monero ได้รับการยอมรับเป็น 1 ใน 2 เหรียญ Privacy ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด

4. เว็บไซต์หลัก

อัพเดตข้อมูลเหรียญ Monero (XMR) ได้จาก www.getmonero.org

5. วัตถุประสงค์หลักและจุดเด่นของเหรียญ Monero (XMR)

Monero (XMR) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ให้ความเป็นส่วนตัวขั้นสุดในการทำธุรกรรมและเป็นทางเลือกสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ต้องการให้ติดตามเส้นทางได้

จุดเด่นของ Monero ได้แก่

  • ความเป็นส่วนตัว: Monero ใช้เทคโนโลยี RingCT และ Stealth Addresses เพื่อปกปิดข้อมูลผู้ส่ง ผู้รับ และจำนวนเงินในการทำธุรกรรม ทำให้ติดตามเส้นทางและแกะรอยธุรกรรมได้ยาก
  • การกระจายอำนาจ: Monero มีการกระจายอำนาจในการขุดเหรียญ ทำให้การควบคุมเครือข่ายโดยนักขุดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นไปได้ยาก

6. วิธีสร้างเหรียญ Monero (XMR)

  • ฉันทามติ: Monero ใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Work ชื่อ RandomX เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ซึ่งออกแบบมาให้ต่อต้านการขุดด้วย ASIC ที่มีแนวโน้มจะเป็นการรวมศูนย์การขุด
  • เครื่องมือ: การขุด Monero ทำได้ดีพอควรด้วยเครื่องมือแบบบ้านๆ อย่าง CPU หรือ GPU ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมในการขุดได้ง่าย
  • อุปทานเหรียญ: ไม่จำกัด

7. รวมเหตุการณ์สำคัญและข่าวที่น่าสนใจ

  • ช่วงปี 2020 – 2021: CipherTrace บริษัทวิเคราะห์คริปโตให้การวิเคราะห์แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของการโจมตีด้วย Ransomware เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณการใช้เหรียญ XMR โดยมองว่าค่าไถ่ถูกเปลี่ยนจาก BTC/ XRP มาเป็น XMR
  • มีนาคม 2023: 9near ใช้ Monero ปกปิดเส้นทางการเงินในการขายข้อมูลผิดกฎหมายบน BreachForum
  • กุมภาพันธ์ 2024: Binance ประกาศว่าจะถอด Monero (XMR) ออกจากกระดานเทรดเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเหรียญที่ให้ความเป็นส่วนตัว ทำให้ราคา XMR ร่วงลงกว่า 30%

สรุป

Monero (XMR) เครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ใช้เทคโนโลยี RingCT และ Stealth Addresses เพื่อปกปิดข้อมูลธุรกรรมทั้งหมด เหรียญนี้เปิดตัวในปี 2014 และยังคงได้รับความนิยมในปี 2025 ด้วยมูลค่าตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง แม้ XMR ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบ แต่ความต้องการใช้งานในกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวยังคงเพิ่มขึ้น โดยมีการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมประสิทธิภาพและความปลอดภัย

อ้างอิง