รีวิวจากใจ : โบรกเกอร์คริปโต Binance แบบละเอียดครบจบในที่เดียว

สวัสดีนักเทรดคริปโตทุกท่านครับ ในวันนี้เราจะมาเจาะลึกกับโบรกเกอร์ชื่อดังระดับโลก “Binance” กัน ถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่าโบรกเกอร์นี้มีข้อดี – ข้อเสียยังไง ? เหมาะกับคุณหรือไม่ ? อย่ารอช้าไปดูกันเลยครับ

ชื่อเสียง ความมั่นคง และความน่าเชื่อถือของ Binance

ชื่อเสียง ความมั่นคง และความน่าเชื่อถือของ Binance อยู่ในระดับสูง โดย Binance เป็นโบรกเกอร์ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาและใช้งานง่าย ทำให้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากครับ ซึ่ง Binance มีผู้ติดตามรวมกว่า 25 ล้านคน และมีเงินหมุนเวียนในแพลตฟอร์มต่อวันกว่า 4.3 หมื่นล้านเหรียญ บวกกับมีนโยบายในการทำให้ถูกกฏหมายตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ส่งผลให้ Binance มีคะแนนอยู่ในระดับสูงครับ

ชื่อเสียง

ชื่อเสียงของ Binance อยู่ในระดับสูง ต้องบอกว่า Binance เป็นโบรกเกอร์ที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอันดับต้น ๆ ครับ เพราะเป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการมาเป็นเจ้าแรก ๆ และมีการพัฒนาแพลตฟอร์มอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ผู้ใช้งานทั้งมือใหม่และมืออาชีพสามารถใช้งานได้สะดวกครับ โดย Binance มีผู้ติดตามในโซเชียลรวมกว่า 25 ล้านคน และมีคนใช้หมุนเวียนกว่า 10 ล้านคนต่อสัปดาห์

ความมั่นคง

ความมั่นคงของ Binance อยู่ในระดับสูง โดย Binance ให้บริการมากว่า 7 ปี และมีเงินหมุนเวียนในแพลตฟอร์มกว่าวันละ 4.3 หมื่นล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังมีเหรียญของตัวเองที่โด่งดังและสร้างกำไรมหาศาล รวมถึงมีเครือข่ายคริปโตของตนเอง และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ทำเงินให้แก่ Binance จึงไม่ต้องกังวลเลยครับว่า Binance จะไม่สามารถให้บริการเนื่องจากปัญหาทางการเงิน

ส่วนทางด้านการพัฒนา Binance ได้มีการปรับบอร์ดบริหารเพื่อให้แพลตฟอร์มดำเนินได้ระยะยาว รวมถึงมีพนักงานกว่า 1.3 หมื่นคน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ หลายเท่า ผมว่าตรงนี้สะท้อนถึงความจริงจังในการบริการระยะยาวให้แก่ลูกค้าเป็นอย่างดีครับ

ความน่าเชื่อถือ

ความน่าเชื่อถือของ Binance อยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน และด้วยความที่ชื่อเสียงโบรกเกอร์โด่งดัง ทำให้เป็นที่จับตามองของหน่วยงานในหลายประเทศ บวกกับ Binance นั้นให้บริการมานานถึง 7 ปี ซึ่งผมมองว่าการที่ Binance จะโกงเกิดขึ้นยากมากครับ และปัจจุบัน Binance ก็เริ่มดำเนินการทางกฏหมายให้สามารถบริการได้อย่างถูกต้องบ้างแล้ว ทำให้การใช้ Binance ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ

ภาพรวมชื่อเสียง ความมั่นคง และความน่าเชื่อถือของ Binance

ข้อมูลผู้บริหาร

Richard Teng คือ CEO คนปัจจุบันของ Binance ครับ ซึ่งเขาขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยรับช่วงต่อจาก Changpeng Zhao (CZ) ผู้ก่อตั้งและ CEO คนก่อนของ Binance และต่อไปนี้คือประวัติของ Richard Teng หรือ CEO คนปัจจุบันกันครับ

ประวัติ

Richard Teng เกิดเมื่อปี 1971 ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากจบระดับมัธยมศึกษา เขาได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Nanyang Technological สาขาบัญชี ตั้งแต่ปี 1991 – 1994 หลังจากเรียนจบเขาเริ่มชีวิตการทำงานที่ Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งเขาทำงานอยู่ที่นี่ถึง 13 ปีด้วยกันครับ (1994 – 2007) และในระหว่างนั้นเขาก็ได้เรียนต่อปริญญาโทที่ University of Western Australia ในสาขาการเงินประยุกต์จนจบในปี 1998

ต่อมาในปี 2007 Richard Teng ได้ย้ายมาทำงานที่ SGX ในตำแหน่ง CRO ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลกฏระเบียบต่าง ๆ ในบริษัท และเขาทำงานที่นี่กว่า 7 ปี เลยทีเดียว หลังจากนั้นในปี 2015 เขาก็ได้เข้าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง, ที่ปรึกษา รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในอีกหลายบริษัทไม่ว่าจะเป็น Abu Dhabi Global Market, Lulu Financial Group, Blockchain Association Singapore และ Global FinTech Institute

จนในปี 2021 หลังจากเขาได้ทำงานกับหลายบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริการด้านการเงินและบล๊อคเชน เขาก็ได้เข้าร่วมกับ Binance Singapore ในฐานะ CEO และค่อย ๆ เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง และในที่สุดเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น CEO ของ Binance หลักในปี 2023 นั่นเองครับ

ชื่อเสียง

Richard Teng มีชื่อเสียงอยู่ในระดับสูงครับ โดยเขามักให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ และสำนักข่าวอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงมีการเคลื่อนไหวในช่องทางโซเชียลอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีคนติดตามใน X (Twitter) กว่า 3 แสนคน นอกจากนี้ยังขึ้นเป็น Speaker ในงานอีเวนต์อยู่บ่อยครั้ง ทำให้ Richard Teng เป็นที่รู้จักทั้งในหมู่คนทำงาน, คนในวงการ และคนทั่วไปในฐานะ CEO คนใหม่ของ Binance ครับ

นโยบาย

Richard Teng มีนโยบายที่จะให้ Binance ถูกกฏหมายในทุกภูมิภาคครับ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน รวมถึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ Binance เติบโตในอุตสาหกรรมคริปโตได้อย่างยั่งยืนครับ

ภาพรวมข้อมูลของ Richard Teng ซีอีโอคนปัจจุบันของ Binance

License ของ Binance

การจดทะเบียนของ Binance จะเป็นรูปแบบการจดบริษัทในประเทศต่าง ๆ ครับ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมี License และชื่อบริษัทที่จดแตกต่างกันออกไป ตรงนี้ผมคาดว่า Binance ทำอย่างนี้เพราะจะได้ให้บริการได้ถูกกฏหมายที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศครับ

เพิ่มเติม Binance จดทะเบียนบริษัททั้งหมด 20 ประเทศ รวมถึงในประเทศไทย โดยทุกคนสามารถดู License ทั้งหมดได้ที่ลิงค์นี้ครับ : https://www.binance.com/en/legal/licenses และต่อจากนี้จะเป็นตัวอย่าง License ที่ Binance ได้รับจากหน่วยงานที่ดูแลในแต่ละประเทศครับ

  1. License ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล จดทะเบียนในชื่อ Binance France SAS โดย AMF เลขจดทะเบียน E2022-037
  2. License ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล จดทะเบียนในชื่อ Binance Italy S.R.L โดย OAM เลขจดทะเบียน PSV5
  3. License ผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน จดทะเบียนในชื่อ Binance Spain, S.L. โดย the Bank of Spain เลขจดทะเบียน D661

ข้อมูลสำนักงานใหญ่ของ Binance

สำนักงานใหญ่ของ Binance ยังไม่ได้ถูกกำหนดว่าจะเป็นที่ไหนครับ (ก่อนหน้านี้ Binance ไม่มีสำนักงานใหญ่ แต่พอ Richard Teng ขึ้นเป็น CEO จึงเริ่มมีนโยบายหาที่ตั้งหลักครับ)

ความนิยมของ Binance เป็นยังไง ? ทั้งในไทยและทั่วโลก

ความนิยมของ Binance ในไทย

ความนิยมของ Binance ในไทยอยู่ในระดับสูง โดยคนไทยส่วนใหญ่ใช้ Binance ในการเทรดคริปโต เนื่องจากใช้งานง่ายและมีมาตรฐาน รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มเจ้าแรก ๆ ที่ให้บริการในไทยครับ ทำให้มีคนแนะนำในอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนใช้งานชาวไทยในโซเชียลกว่า 2.5 แสนคน ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่มักใช้เป็นทางผ่านในการลงทุนในโลกคริปโต เนื่องจากรองรับการใช้งานในไทย และมีเหรียญให้เลือกมากมาย จึงเป็นที่นิยมสำหรับชาวไทยครับ

ความนิยมของ Binance ทั่วโลก

ความนิยมของ Binance ทั่วโลกอยู่ในระดับสูง โดย Binance เป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในเว็บไซต์คริปโตชื่อดังหลายแห่ง เช่น CoinMarketCap หรือ CoinGecko เนื่องจากมี Volume ที่เทรดสูงที่สุดถึง 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวัน และมีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีการออกสื่อ และอัพเดตข่าวอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงมีเหรียญและเครือข่ายคริปโตของตนเอง ทำให้ Binance ยิ่งได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นไปอีกครับ

สรุปภาพรวมความนิยมของ Binance ทั้งในไทยและทั่วโลก

รีวิวของ Binance จากผู้ใช้งานในอินเตอร์เน็ต

เสียงจากผู้ใช้งานชาวไทย

  • ส่วนใหญ่บอกว่า Binance เชื่อถือได้ แต่แนะนำให้มือใหม่ไปใช้โบรกเกอร์ไทยก่อน เพราะหากเกิดเรื่องจะได้ตามได้ง่ายกว่า
  • มักมีคำถามจากคนที่เพิ่งเริ่มเทรดเกี่ยวกับการใช้งานต่าง ๆ
  • หลายคนบอกว่าค่าธรรมเนียม Binance ถูกกว่าโบรกเกอร์ในไทย

เสียงจากผู้ใช้งานชาวต่างชาติ

  • ผู้ใช้งานแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยมีทั้งฝ่ายที่บอกว่าดี และฝ่ายที่บอกว่าไม่ดี
  • ฝั่งที่ว่าดีบอกว่าใช้ Binance มาหลายปี ซึ่งไม่เคยพบปัญหาการใช้งานใด ๆ
  • แต่ก็มีบางส่วนบอกว่า Binance ไม่น่าเชื่อถือเนื่องจากมีข่าวการฟ้องร้องด้านกฏหมาย รวมถึงแนะนำว่าไม่ควรไว้ใจโบรกเกอร์ไหนก็ตาม (ควรเก็บเหรียญไว้ที่ Cold Wallet)

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Binance

ข้อดี

  • สภาพคล่องสูง
  • มีเหรียญให้เทรดหลากหลาย
  • ใช้งานง่าย รองรับการใช้งานของชาวไทย
  • ค่าธรรมเนียมไม่แพง และมีโปรโมชั่นค่าธรรมเนียม
  • เมนูต่าง ๆ มีประสิทธิภาพ และครบถ้วน

ข้อเสีย

  • ไม่ได้รับการรับรองจากกลต.ไทย
  • มีข่าวเสียหายด้านกฏหมาย
  • ฝ่ายบริการติดต่อยาก

สรุปข้อดี – ข้อเสียของ Binance

ความน่าสนใจและจุดเด่นของBinance

Binance น่าสนใจตรงที่เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีฟีเจอร์การใช้งานครบตามความต้องการครับ ต้องบอกว่า Binance อาจไม่ใช่โบรกเกอร์ที่ไปสุดในด้านใดด้านหนึ่งอย่างโบรกเกอร์อื่น ๆ แต่ Binance เน้นพัฒนาแต่ละฟีเจอร์อย่างเท่า ๆ กัน ทำให้แต่ละฟีเจอร์ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ในแต่ละด้านที่ผู้ใช้งานต้องการ เช่น ฟีเจอร์การเทรด, การเชื่อมต่อกับโลกคริปโต, Staking และอื่น ๆ ครับ

จุดเด่นของ Binance

  • มีเครือข่ายคริปโตและเหรียญคริปโตเป็นของตนเอง
  • รองรับธนาคารไทยผ่านระบบ P2P
  • มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ถือเหรียญของ Binance (BNB)
  • มีฟีเจอร์รองรับทั้งการเทรด และคริปโต
  • เป็นโบรกเกอร์อันดับต้น ๆ ของโลก

สรุปจุดเด่นของ Binance

เมนูบนเว็บไซต์ Binance ที่น่าสนใจ

Trading Bots

เป็นเมนูที่รวมบอทเทรดไว้จำนวนมากครับทั้งบอท DCA, Bullish, Bearish และอื่น ๆ อีกทั้งยังเราสามารถสร้างบอทเทรดเองหรือจะใช้ของคนอื่นก็ได้ ทำให้เมนูนี้แม้แต่คนที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดก็สามารถใช้ได้ครับ ซึ่งผมมองว่าสำหรับใครที่ไม่มีเวลาลงทุนเองลองศึกษาเมนูนี้ดู แล้วจะช่วยเพิ่มกำไรและประหยัดเวลาได้มากขึ้นครับ

Earn

ในเมนูนี้จะเป็นการฝากคริปโตเพื่อรับผลตอบแทนตามเงื่อนไขครับ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะล๊อคเหรียญนานเท่าไร หรือจะเป็นการฝากแบบไม่ล๊อคเหรียญก็ทำได้ครับ โดยแต่ละเหรียญจะมีเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและความต้องการของเรา ถือว่าเป็นเมนูฝากคริปโตที่เรียบง่ายเหมาะกับคนที่อยากเพิ่มผลตอบแทนแต่ไม่อยากเสี่ยงกับแพลตฟอร์มที่ไม่น่าเชื่อถือครับ

Square

เมนูนี้จะคล้ายกับแพลตฟอร์มโซเชียลที่เราสามารถโพสรูปหรือข้อความให้คนอื่นเข้ามาไลค์หรือคอมเมนต์ได้ (คล้าย Twitter) ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นโบรกเกอร์ไหนทำเมนูแบบนี้ และต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ โดยส่วนใหญ่มักเป็นโพสเกี่ยวกับข่าวสารคริปโตจากทั้งคนดัง และผู้ใช้งานทั่วไป เรียกว่าเป็นโซเชียลสำหรับคอมมูนิตี้คริปโตเลยก็ว่าได้ครับ

Megadrop

เป็นเมนูแจกรางวัลพิเศษให้กับผู้ที่ถือเหรียญ BNB (เหรียญของ Binance) ซึ่งเราจะต้องล๊อคเหรียญ BNB และทำตามเงื่อนไขเพื่อรวมคะแนนให้ได้รางวัล โดยรางวัลจะเป็นคริปโตที่เพิ่งออกใหม่หรือยังไม่มีลิสที่ไหนครับ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทำให้ผู้ถือเหรียญ BNB ได้รับเหรียญใหม่ก่อนใครโดยไม่ต้องเสียเงินลงทุนเลยล่ะครับ

Charity

เมนูสุดท้ายอาจไม่เกี่ยวกับคริปโต แต่ผมคิดว่าน่าสนใจและอยากแนะนำทุกคนให้ลองใช้ดูครับ ซึ่งเจ้าเมนูนี้ก็คือเมนูโดเนทหรือบริจาคนั่นล่ะครับ โดย Binance จะให้เราเลือกว่าอยากบริจาคให้กับใคร เช่น เด็กในพื้นที่ห่างไกล, ประเทศที่เกิดภัยพิบัติ และอื่น ๆ และเขาก็จะนำเงินบริจาคไปช่วยเหลือคนเหล่านั้นครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นเมนูที่ทำให้เราได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้แม้เราจะอยู่ไกลจากพวกเขา ถือว่าเป็นเมนูที่ดีเลยล่ะครับ

ภาพรวมเมนูที่น่าสนใจของ Binance

ความรู้สึกหลักจากเทรดกับ Binance

ต้องบอกว่าหน้าต่างเทรดใช้งานง่าย และจัดเรียงได้ดี ทำให้เวลาเทรดนาน ๆ ไม่รู้สึกลายตามากครับ พวกเมนูเครื่องมือหรือข้อมูลก็จะมีการซ่อนไว้ในไอคอน ซึ่งข้อดีคือช่วยให้หน้าต่างเทรดไม่ซับซ้อน แต่จะมีข้อเสียตรงที่อาจหาไม่เจอได้ครับ ในด้านการออกคำสั่งถือว่าทำได้รวดเร็ว และมีการอัพเดตราคาคริปโตที่ไว (มีเวลานับเป็นวินาทีให้เราดู) รวมถึงมีสภาพคล่องสูง ทำให้จับคู่คำสั่งได้ไว โดยรวมถือว่าพอใจในการใช้งานครับ

ค่าบริการเทรดคริปโตของ Binance

Binance คิดค่าธรรมเนียมเทรดคริปโตอยู่ทั้งหมด 4 แบบครับ ได้แก่ 1. Spot & Margin 2.USDS–M Futures 3. Coin-M Futures และ 4. Option ครับ โดยจะคิดค่าธรรมเนียมตามลำดับขั้น VIP ซึ่งยิ่งระดับสูงค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งถูกลง ซึ่งคุณสามารถดูค่าธรรมเนียมได้ด้านล่างนี้ครับ

สรุปการคิดค่าบริการของ Binance แบบเข้าใจง่าย

Spot & Margin

  1. ผู้ใช้งานทั่วไป : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน < 1,000,000 USD หรือ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 0 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.1000%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.1000%
  2. VIP 1 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 1,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 25 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0900%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.1000%
  3. VIP 2 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 5,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 100 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0800%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.1000%
  4. VIP 3 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 20,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 250 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0400%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0600%
  5. VIP 4 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 75,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0400%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0520%
  6. VIP 5 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 150,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0250%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0310%
  7. VIP 6 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 400,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,750 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0200%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0290%
  8. VIP 7 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 800,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 3,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0190%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0280%
  9. VIP 8 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 2,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 4,500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0160%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0250%
  10. VIP 9 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 4,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 5,500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0110%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0230%

USDS–M Futures

  1. ผู้ใช้งานทั่วไป : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน < 15,000,000 USD หรือ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 0 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0200%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0500%
  2. VIP 1 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 15,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 25 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0160%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0400%
  3. VIP 2 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 50,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 100 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0140%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0350%
  4. VIP 3 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 100,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 250 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0120%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0320%
  5. VIP 4 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 600,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0100%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0300%
  6. VIP 5 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 1,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0080%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0270%
  7. VIP 6 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 2,500,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,750 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0060%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0250%
  8. VIP 7 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 5,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 3,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0040%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0220%
  9. VIP 8 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 12,500,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 4,500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0020%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0200%
  10. VIP 9 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 25,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 5,500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0000%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0170%

Coin-M Futures

  1. ผู้ใช้งานทั่วไป : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน < 15,000,000 USD หรือ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 0 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0200%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0500%
  2. VIP 1 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 15,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 25 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0160%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0400%
  3. VIP 2 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 50,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 100 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0140%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0350%
  4. VIP 3 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 100,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 250 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0120%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0320%
  5. VIP 4 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 600,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0100%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0300%
  6. VIP 5 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 1,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0080%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0270%
  7. VIP 6 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 2,500,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 1,750 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0060%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0250%
  8. VIP 7 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 5,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 3,000 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0040%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0220%
  9. VIP 8 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 12,500,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 4,500 BNB
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0020%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0200%
  10. VIP 9 : จำนวนเงินเทรดรวมใน 30 วัน ≥ 25,000,000,000 USD และ จำนวน BNB ที่ถือ ≥ 5,500
    BNBค่าธรรมเนียมฝั่ง Maker = 0.0000%
    ค่าธรรมเนียมฝั่ง Taker = 0.0170%

Option

ค่าธรรมเนียมการเทรด Option จะเท่ากันทุกระดับครับ โดยค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 0.03 % ทั้งฝั่ง Maker และ Taker ครับ

เพิ่มเติม หากต้องการดูเงื่อนไขและโปรโมชั่นค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมกดที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ : https://www.binance.com/en/fee/trading

ค่าบริการอื่นๆ

Binance มีค่าธรรมเนียมบริการอื่น ๆ หลายอย่างครับ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมเทรด NFT, ค่าธรรมเนียมฝาก- ถอน คริปโต, ค่าดอกเบี้ย และอื่น ๆ ซึ่งจะใช้การคิดตามระบบ VIP และตามเหรียญที่เราทำธุรกรรม โดยใครที่อยากดูค่าบริการทั้งหมดสามารถกดลิงค์นี้ได้เลยครับ : https://www.binance.com/en/fee/nftFee

สินทรัพย์ที่ให้บริการเทรด

คริปโต

  • Binance มีคริปโตให้เทรดมากกว่า 400 เหรียญครับ โดยมีเหรียญจากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น Layer 2, GameFi, Defi, Meme และอื่น ๆ อีกมากมายครับ
  • ตัวอย่างเหรียญที่ Binance ให้บริการ เช่น ARB, OP, GALA, AXS และอื่น ๆ

สินทรัพย์อื่น ๆ

  • Binance ให้บริการ NFT โดยมี Market place เป็นของตัวเองครับ ซึ่งมีทั้ง NFT ของทาง Binance เอง และ NFT จากศิลปินอื่น ๆ จำนวนมาก
  • ตัวอย่าง NFT ที่ Binance ให้บริการ Gemesis, Ronaldo_Football HV-MTL และอื่น ๆ

ช่องทางฝาก – ถอนที่ Binance ให้บริการ

Binance ให้บริการช่องทาง P2P เพียงช่องทางเดียว แต่สามารถเลือกช่องทางการจ่ายเงินได้ 3 แบบ ได้แก่ โอนผ่านธนาคาร, True Money และ ShopeePay-SEA ครับ

สรุปช่องทางฝาก – ถอนของ Binance สำหรับชาวไทย

ความเร็วในการฝาก – ถอนของ Binance

Binance มีความเร็วในการฝากถอนอยู่ที่ระดับปานกลาง – เร็ว เนื่องจากเป็นการฝาก – ถอนแบบ P2P ระยะเวลาจึงทำธุรกรรมเลยขึ้นอยู่กับผู้ทำธุรกรรมครับ แต่โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1 – 15 นาที

การใช้งานโดยรวมของ Binance

  • มีฟีเจอร์ครบตามความต้องการ
  • การประมวลผลเร็วทั้งเว็บไซต์ และหน้าต่างเทรด
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากแพลตฟอร์มออกแบบได้เรียบง่าย
  • ส่วนตอบคำถามบริการตัวเองทำได้ดี และชัดเจน
  • ติดต่อฝ่ายบริการยาก
  • อาจไม่เข้าใจในบางส่วน เนื่องจากไม่มีภาษาไทย

สรุปการใช้งานโดยรวมของ Binance

บริการของ Binance เป็นยังไง ?

บริการของ Binance อยู่ระดับปานกลางครับ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่าจะตอบ (4-5 นาทีต่อคำตอบ) และติดต่อเจ้าหน้าที่ยากครับ โดยกว่าเราจะติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ต้องผ่านการกดคำตอบสำเร็จรูปในส่วนบริการตัวเองหลายครั้ง รวมถึงพอกดติดต่อเจ้าหน้าที่ไปยังจะขึ้นคำถามสำเร็จรูปอีก ซึ่งตรงนี้ถ้าคนที่ไม่รู้อาจคิดว่าติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้ก็ได้ครับ แต่หลังจากติดต่อได้แล้วก็ถือว่าบริการดี ตอบคำถามครบถ้วน จึงให้ความประทับใจกลาง ๆ ครับ (เห็นแก่เจ้าหน้าที่) อ้อ ไม่มีบริการเป็นภาษาไทยนะครับ

รางวัลที่ Binance ได้รับ

ไม่พบรางวัลที่ Binance ได้รับ

ช่องทางติดต่อของ Binance

โซเชี่ยลของ Binance

เหตุการณ์ของ Binance ที่น่าสนใจ

  1. วันที่ 29 ตุลาคม 2567 Binance ประกาศยุติการให้บริการฝาก – ถอนเหรียญ BNB บนเชน Beacon (BEP2) ลิงค์อ้างอิง https://www.binance.com/en/support/announcement/binance-will-cease-support-for-deposits-and-withdrawals-on-bnb-beacon-chain-bep2-27622211a596475390b18f7c8fd52c1e
  2. วันที่ 23 ตุลาคม 2567 Binance ยกเลิกเงื่อนไขขั้นต่ำในการใช้ Margin Port ลิงค์อ้างอิง https://www.binance.com/en/support/announcement/binance-removes-the-minimum-wallet-balance-requirement-for-portfolio-margin-2024-10-23-82e3f6645b554322bd3ffd75f57309b7
  3. วันที่ 23 ตุลาคม 2567 Binance ประกาศขายบัตร Binance Blockchain Week Dubai 2024 ในราคาเต็ม เนื่องจากบัตร Early Bird หมดแล้ว ลิงค์อ้างอิง https://www.binance.com/en/support/announcement/blockchain-week-dubai-2024-ticket-prices-are-now-600-excluding-vat-bedb7517e310459aaf8a011ca947b742
  4. วันที่ 6 กันยายน 2567 Binance ประกาศถึง CEO คนเก่าว่าไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่ง CEO ได้อีกต่อไปแล้ว พร้อมเล่าถึงเรื่องราวของ CEO คนเก่าและอนาคตของทั้ง Binance และ CZ ลิงค์อ้างอิง https://www.binance.com/en/square/post/13179275963801

ข่าวที่น่าสนใจของ Binance

วิธีสมัครและเปิดบัญชีกับ Binance

  1. กด Sign Up ในแอพพลิเคชั่น
  2. เลือก Create a Binance Account
  3. เลือกอีเมลหรือเบอร์โทรในการลงทะเบียน
  4. กรอกข้อมูลตามวิธีที่เลือก (อีเมลหรือเบอร์โทร)
  5. กรอกรหัสยืนยันที่ถูกส่งไปยังอีเมลหรือโทรศัพท์
  6. สร้างรหัสผ่านที่ต้องการ
  7. เสร็จสิ้นการเปิดบัญชี

วิธียืนยันตัวตนหลังจากเปิดบัญชีกับ Binance

  1. เลือก Identification ที่เมนูโปรไฟล์ของคุณ
  2. กดคำว่า “Get Verified” หรือ “Verify Now”
  3. เลือกประเทศตามบัตรประชาชน (ไทย)
  4. กรอกข้อมูลส่วนตัวที่กำหนด
  5. อัพโหลดเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน)
  6. สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
  7. ยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น รอผลการตรวจสอบไม่เกิน 48 ชั่วโมงครับ

สรุปวิธียืนยันตัวตนกับ Binance แบบเข้าใจง่าย

วิธีฝากเงินและถอนเงินกับ Binance

เนื่องจากชาวไทยสามารถใช้ช่องทาง P2P ในการฝาก – ถอนเงินกับ Binance ได้เพียงช่องทางเดียว ฉะนั้นผมจึงนำขั้นตอนการใช้งาน P2P มาให้ทุกคนตามข้างล่างนี้ครับ

  1. กดที่เมนู P2P Trading ในแอพพลิเคชั่น
  2. เลือก Zone ในการเทรด (มี 2 Zone ได้แก่ P2P Zone และ Express Zone)
  3. สมมติว่าเลือก P2P Zone (เลือกผู้ให้บริการเอง) ให้เรากด “Buy” หลังเหรียญที่ต้องการซื้อ
  4. ใส่จำนวนที่ต้องการซื้อ และกด Buy
  5. โอนเงินให้คนขายผ่านช่องทางที่เลือก เช่น ธนาคาร หรือ True money
  6. หลังจากโอนแล้วให้กดคำว่า “Transferred, notify seller”
  7. เสร็จสิ้นการซื้อ รอผู้ขายปล่อยเหรียญให้คุณได้เลยครับ

สรุปภาพรวมวิธีการฝาก – ถอนของ Binance

เพิ่มเติม P2P Zone คือ การเทรดที่ให้เราเลือกคนซื้อ – คนขายเอง ส่วน Express Zone คือ การเทรดที่ระบบจับคู่ให้อัตโนมัติ

เพิ่มเติม 2 ควรเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้หากต้องการขายคริปโตให้เปลี่ยนตรงแถบจาก Buy เป็น Sell และรอให้ผู้ซื้อ (เขาตั้งรอซื้อเหมือนกับตอนขาย) โอนเงินให้ จากนั้นให้เราทำการปล่อยเหรียญครับ

วิธีใช้งาน Binance ตั้งแต่เริ่มต้นสำหรับมือใหม่

  • เปิดบัญชี และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยเพื่อให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบ
  • ทางด้านบนเว็บไซต์ฝั่งซ้ายจะเป็นแถบเมนูเทรดและฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับคริปโต นอกจากนี้เมนูที่เกี่ยวข้องกับโลกคริปโต เช่น NFT หรือ Web3 Wallet ก็จะอยู่ในเมนูแถบนี้ด้วยครับ
  • ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นข้อมูลบัญชีของเรา ซึ่งเราสามารถตั้งค่าโปรไฟล์และยืนยันตัวตนได้ที่ฝั่งนี้
  • หากต้องการข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติม หรือต้องการติดต่อฝ่ายบริการให้เราเลื่อนลงมาด้านล่างสุดจะพบกับเมนูอื่น ๆ เพิ่มเติมจำนวนมาก ให้เราหาเมนูที่ต้องการและกดที่หัวข้อนั้น ๆ ซึ่งจะพาเราไปยังหน้าต่างหัวข้อที่ต้องการครับ
  • หากต้องการใช้ในมือถือให้สแกน QR Code ในเว็บไซต์ หรือโหลด Binance จาก Store ในโทรศัพทได้เลยครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Binance

ถาม : ทำไมถึงต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง ?

ตอบ : 1. ล๊อคอินจาก IP อื่น 2. ยังไม่ยืนยันด้วยใบหน้า 3. การยืนยันตัวตนมีปัญหา 4. ยังไม่เปิดการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน

ถาม : Binance Web3 Wallet คืออะไร ?

ตอบ : กระเป๋าเงินดิจิตอลที่สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในโลกคริปโตได้

ถาม : ค่าธรรมเนียมเครือข่ายคืออะไร?

ตอบ : ค่าธรรมเนียมในโลกคริปโตที่ต้องจ่ายเพื่อให้ธุรกรรมสำเร็จ

สรุป Binance น่าใช้มั้ย ?

น่าใช้ระดับสูง โดยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ, รองรับธนาคารไทย, เชื่อมต่อกับบล๊อคเชนได้ และมีฟีเจอร์ครบครัน เพราะต้องบอกเลยว่า Binance เป็นโบรกเกอร์ที่มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ และเข้าใจคริปโตในระดับดี ทำให้การออกแบบและนโยบายให้บริการตอบโจทย์สำหรับคนเทรดคริปโตครับ ส่วนคนที่ผมไม่แนะนำให้เทรดคือคนที่ต้องการใช้แบบภาษาไทย และคนที่ไม่มั่นใจในโบรกเกอร์ต่างประเทศ เพราะ Binance ไม่มีบริการภาษาไทย รวมถึงไม่ได้รับการรับรองจากกลต.ไทยครับ

อ้างอิง