Avalanche (Avax) คือเหรียญอะไร
Avax คือเหรียญที่สร้างมาเพื่อให้ผู้พัฒนาต่าง ๆ เข้ามาสร้างแพลตฟอร์มที่ไร้ศูนย์กลาง(dApps)ได้ โดยบล็อกเชนนี้มีความพิเศษต่างจากที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็ว การขยายขนาดบล็อกเชนเพื่อรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก ในส่วนของการยืนยันความไม่ถูกต้องและระบบป้องกันก็แตกต่างออกไป โดย Avalanche จะใช้ระบบ consensus ในการยืนยันธุรกรรม
โดยปกติเราอาจจะเคยได้คำว่า 51% Attack ในโลกบล็อกเชน หรือก็คือการที่มีใครสักคนสามารถควบคุมโหนดได้เกินครึ่ง ก็อาจจะเสี่ยงกับการโจมตีหรือแก้ไขธุรกรรม แต่ Avax แตกต่างออกไป ด้วยการยืนยันธุรกรรมที่เป็นกลุ่มทำให้ยากต่อการโจมตี และการตรวจสอบหลายครั้งก่อนจะบันทึกลงบล็อกเชน อีกทั้งระบบที่แยกออกมาเป็น 3 ส่วนแบ่งเป็น X-Chain, C-Chain และ P-Chain แต่ละส่วนจะทำหน้าที่ต่างกัน เมื่อทั้งหมดรวมกันจะกลายเป็นบล็อกเชนที่เรียกว่า Avalanche (AVAX)
เหรียญนี้มีระบบการควบคุมปริมาณของเหรียญในตลาด ไม่ให้เหรียญมีอยู่ในตลาดมากเกินไป แม้ว่าใครจะสามารถเป็นผู้ตรวจสอบก็ได้ถ้าทำตามข้อกำหนด อาจจะทำให้หลายคนคิดว่าเหรียญนี้จะมีอุปทานที่มากเกินไป แต่ระบบของเขาถูกออกแบบมาให้ค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการทำธุรกรรมจะถูกเผาทิ้ง(Burn) ทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมปริมาณของเหรียญในระบบได้เป็นอย่างดี
มูลค่าตลาดของ Avalanche (Avax)
รูปที่ 1 : ข้อมูลปริมาณการซื้อขาย จำนวนเหรียญ และ Market cap ของเหรียญ AVAX จาก CoinmarketCap
เหรียญ Avalanche ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกคริปโต มีความยืดหยุ่น มาพร้อมกับระบบการยืนยันธุรกรรมเป็นกลุ่มที่น่าเชื่อถือ ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $$13.45B โดยประมาณ ราคาต่อเหรียญ $32.96 โดยประมาณ มีเหรียญหมุนเวียนอยู่ในตลาดปริมาณ 407.33M AVAX และจำนวนเหรียญทั้งหมดอยู่ที่ 715.75M AVAX เหรียญ Avax มีความนิยมอยู่อันดับที่ 13 เป็นเหรียญที่น่าจับตามองเมื่อโลกของ Web3 หรือ dApps ต่าง ๆ เริ่มมีบทบาทเพิ่มขึ้น
ผู้สร้าง Avalanche (Avax)
รูปที่ 2 : ผู้ก่อตั้ง Ava Labs และเหรียญ AVAX
Emin Gün Sirer (Co-founder and CEO)
ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ Cornell University ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคริปโตและเป็นหัวหอกในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ของเหรียญ Avax เช่น เทคโนโลยี Snow Protocols ที่เป็นการยืนยันธุรกรรมของ Avalanche เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ให้กำเนิดบล็อกเชน Avalanche อย่างแท้จริง
Maofan “Ted” Yin (Chief Protocol Architect)
เขาคือมือขวาของ Emin Gün Sirer ที่ร่วมพัฒนาระบบ Snow Protocols ที่เป็นหนึ่งในระบบหลักของ Avalanche ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เหรียญ Avax เป็นหนึ่งในเหรียญที่มีคนไว้ใจและมั่นใจมากที่สุดเหรียญหนึ่ง
Kevin Sekniqi (Co-founder and COO)
เป็นผู้ที่คอยดูแลการปฏิบัติการทั้งหมดของเหรียญ Avax แก้ปัญหาไปถึงการพัฒนาเหรียญ และรับความเห็นจากชุมชนเข้ามาปรับและแก้ไขตามความต้องการของคนในชุมชนตามความเหมาะสม และเป็นผู้ที่ประสานงานคอยวางแผนในอนาคตของ Ava Labs
Snow Consensus Protocols การยืนยันธุรกรรมของเหรียญ Avax
รูปที่ 3 : การทำงานตามลำดับของ Snow Consensus Protocol
เป็นระบบที่ Avax ใช้ในการยืนยันธุรกรรมและสร้างความปลอดภัยให้กับบล็อกเชน โดยจะแบ่ง
เป็น 4 ส่วนด้วยกัน ซึ่งแต่ละส่วนจะทำหน้าที่เป็นลำดับขั้นและแตกต่างกันออกไป เพิ่มความแข็งแรงให้กับบล็อกเชน
Slush
การสุ่ม Validator หรือผู้ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม จากนั้นแยกเป็นกลุ่ม เพื่อกระจายศูนย์และเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยความถูกต้องจะถูกยืนยันจากหลาย ๆ โหนดพร้อม ๆ กัน และจะยึดเสียงส่วนใหญ่ที่ลงความเห็นเป็นความถูกต้อง
Snowflake
เมื่อได้รับข้อมูลจาก Slush มาแล้ว ระบบ Snowflake จะทำการโหวตซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าข้อมูลจะน่าจะเชื่อถือ การที่ระบบมีการโหวตซ้ำและถูกนับไปเรื่อย ๆ จะทำให้คะแนนเสียงมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถือจุดหนึ่งระบบจะเชื่อผลโหวตส่วนใหญ่และนำไปสู่ขั้นต่อไป
Snowball
การที่ผลโหวตถูกทำซ้ำและเริ่มขยายขึ้นเรื่อย ๆ เปรียบเสมือนลูกบอลหิมะขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงมากขึ้น แต่ละโหนดจะรักษาข้อมูลทั้งหมดไว้จนนำไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย
Avalanche
คือการนำข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แข็งแกร่ง และปลอดภัย จากกระบวนการทั้งหมดบันทึกลงบล็อกเชน ทำให้บล็อกเชนของ Avalanche มีความน่าเชื่อถือ และสามารถป้องกันการโจมตีหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Subnets ของ Avalanche
การทำงานของ Avalanche ไม่ได้มีแค่บล็อกเชนเดียวเหมือนคริปโตทั่วๆผ ๆ แต่จะมีเชนย่อยหรือที่เรียกว่า Subnets ที่จะแยกการทำงานกันอย่างชัดเจน แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ที่ติ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ
X-Chain (Exchange Chain)
ใช้สำหรับการสร้างเหรียญใหม่และแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ในโลกของบล็อกเชน โดยจะใช้ระบบที่เรียกว่า DAG (Directed Acyclic Graph) ในการตรวจสอบธุรกรรม เพิ่มความสามารถในการป้องกันการปลอมแปลงธุรกรรมหรือการเปลี่ยนข้อมูลในบล็อกเชน
C-Chain (Contract Chain)
เป็นเครือข่ายย่อยที่ใช้จัดการระบบ Smart Contract หรือ DApps (Decentralized Applications) โดยผู้พัฒนาสามารถนำแอปที่ตัวเองพัฒนาบน Ethereum Blockchain เข้ามาใช้งานกับ Avalanche Blockchain ได้ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระบบมากมาย เพราะ Avalanche ที่สิ่งที่เรียกว่า Ethereum Virtual Machine (EVM) ที่ทำให้ระบบของทั้ง Ethereum และ Avalanche สามารถเข้ากันได้
P-Chain (Platform Chain)
เปรียบเสมือนผู้จัดการของ Avalanche ที่จะค่อยค้นหา Validator หรือกลุ่มโหนดที่ยืนยันธุรกรรม และคอยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย อีกทั้งยังสามารถสร้างและจัดการ Subnets ของบล็อกเชนนี้อีกด้วย โดย P-Chain จะใช้ระบบ PoS (Proof of stake) ในการจัดการทั้งเรื่อง Validator และ Subnets
DAG (Directed Acyclic Graph) คืออะไร
DAG คือวิธีการยืนยันธุรกรรมรูปแบบหนึ่ง โดยใช้ Consensus หรือ ฉันทมติ ในการยืนยันธุรกรรมและไม่จำเป็นต้องรอการยืนยันบล็อกต่อบล็อกเหมือน Bitcoin แต่สามารถยืนยันธุรกรรมพร้อมกันจำนวนมากได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ทำให้การยืนยันแบบนี้พิเศษกว่าที่อื่น คือ การยืนยันธุรกรรมเป็นกลุ่มแต่ละกลุ่มจะถูกย่อยลงไปเป็นโหนด ซึ่งแต่ละโหนดก็จะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและนำสิ่งที่ตรวจสอบยื่นไปให้ทุกคนในกลุ่มใหญ่
สมมุติว่า เรามีกลุ่ม 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม A B C กลุ่มหนึ่งมี 3 คน หากมีเสียงมากกว่าหรือเท่ากับ 2 คน จะถือว่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น แอปเปิลสีแดงหรือสีน้ำเงิน กลุ่ม A และ B มีมากกว่าหรือเท่า 2 คนที่โหวดว่า แอปเปิลเป็นสีแดง แต่กลุ่ม C มี 3 คนบอกว่า แอปเปิลเป็นสีน้ำเงิน ระบบจะเชื่อสิ่งที่มีความเห็นมากกว่าคือ กลุ่ม A และ B จากนั้นจะบันทึกลงบล็อกเชนว่า แอปเปิลเป็นสีแดง
เช่นเดียวกับการทำธุรกรรม ความถูกต้องของธุรกรรมเกิดจาก ฉันทมติ ในการลงเสียงว่าธุรกรรมนี้ถูกหรือไม่ หากเสียงส่วนใหญ่บอกว่าถูกต้องก็จะบันทึกลงบล็อกเชน แต่ถ้าหากเสียงส่วนใหญ่บอกว่าไม่ถูก ธุรกรรมนั้นจะถือว่าเป็น โมฆะ ไป
รูปที่ 4 : การยืนยันข้อมูลของ DAG (Directed Acyclic Graph)
Ethereum Virtual Machine (EVM) คืออะไร
EVM คือการที่ระบบสามารถรับคำสั่งหรือโค้ดที่พัฒนาจาก Ethereum Blockchain ให้สามารถใช้ใน Avalanche Blockchain ได้ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือเขียนโค้ดขึ้นมาใหม่ สามารถนำโค้ดมาตัดแปะได้ในทันที เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อโค้ดระหว่าง 2 บล็อกเชนก็ว่าได้
เปรียบเสมือนการที่เรามีหัวชาร์จ USB ที่สามารถเปลี่ยนสายชาร์จได้ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จมือถือ หรือชาร์จ Powerbank ก็สามารถทำได้ เพียงแค่เปลี่ยนสายเท่านั้น
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาชอบมาก ๆ สมมุติว่าวันหนึ่ง Ethereum Blockchain เกิดมีปัญหา หรือมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมหรือค่าใช้งานที่มากขึ้นเกินกว่าผู้พัฒนาจะรับไว้ ก็สามารถเลือกที่จะเปลี่ยนมาเปิดใช้งาน DApps ใน Avalanche Blockchain ได้ในทันที จึงทำให้ระบบนี้เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ Avalanche Blockchain
PoS (Proof of stake) ของเหรียญ Avax
คือระบบการยืนยันธุรกรรมของเหรียญ Avax โดยการฝากเหรียญไว้เป็นจำนวนอย่างน้อย 2,000 Avax เพื่อที่จะเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมและยืนยันธุรกรรมก่อนจะบันทึกข้อมูลลงในบล็อกเชน โดยผู้ฝากจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ Avax แต่ถ้าหากว่าผู้ที่ทำการตรวจสอบพยายามจะแก้ไขธุรกรรมหรือทำอะไรที่เป็นการเปลี่ยนแปลงความจริง จะถูกลงโทษโดยเหรียญที่ฝากไว้จะถูกยึด
ซึ่งระบบนี้เป็นที่รู้กันว่าจะมีความเร็วกว่าระบบ PoW(Proof of Work) เพราะการยืนยันธุรกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นลำดับขั้น สามารถยืนยันธุรกรรมจำนวนมากพร้อมกันได้ ใช้พลังงานน้อยกว่า และมีสิ่งที่เรียกว่า Scalability หรือการขยายขนาดของบล็อกเชนเพื่อรองรับผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก
สรุป Avax เข้ามาแก้ปัญหาอะไร
ปัญหาส่วนใหญ่ของโลกคริปโตคือเรื่องของความเร็วในการทำธุรกรรม การกระจายตัวของโหนด รวมไปถึง Scalability ของบล็อกเชน การโยกย้าย DApps จาก Ethereum เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน ความยืดหยุ่นจาก Subnets และการป้องกันการปลอมแปลงธุรกรรมด้วยระบบ Consensus Protocols ที่เรียกว่า Snow protocols
ซึ่งเหรียญ Avax เข้ามาแก้ปัญหาทั้งหมดได้ ด้วยการวางระบบต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และสิ่งที่ทำให้เหรียญ Avax แตกต่างกับเหรียญอื่นคือการที่เหรียญมีระบบ Subnets หรือเชนย่อยในบล็อกเชนใหญ่ และทุกเชนสามารถเชื่อมต่อและคุยกันได้อย่างมีคุณภาพ
อ้างอิง
- https://www.avax.network/
- https://coinmarketcap.com/currencies/avalanche/
- https://www.investopedia.com/avalanche-avax-definition-5217374
- https://support.avax.network/en/articles/6593294-what-are-the-l1-validator-requirements
- https://support.avax.network/en/articles/5417030-what-is-the-ethereum-virtual-machine-evm
- https://www.avalabs.org/whitepapers